วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2563

วิหารวรรณกรรม (Van mieu)

สวัสดีค่ะทุกคน ครั้งนี้เราจะพาไปรู้จักกับแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของประเทศเวียดนามเวียดนามกัน นั้นคือ วิหารวรรณกรรม นั้นเอง วิหารแห่งนี้เป็นทั้ง "วัดโบราณ" ที่มีผู้คนมาเคารพศรัทธากันอย่างยาวนานแล้ว ยังถือได้ว่าเป็น "มหาวิทยาลัยแห่งแรกของเวียดนาม" อีกด้วย โดยจะมีการเรียนการสอนเกี่ยวกับขงจื๊อ ซึ่งเป็นลัทธิที่ผู้คนเคารพนับถือกันอย่างแพร่หลายในประเทศจีนและได้เผยแพร่อิทธิพลมาสู่เวียดนามซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียงด้วย ดังนั้นเรามาทำความรู้จักสถานที่ที่เป็นร่องรอยประวัติศาสตร์แห่งการศึกษาของเวียดนามกันเลยดีกว่าคะ

ที่มา : https://www.thaitravelcenter.com/_admin2/userfiles/destinations/images/place-395-img1.jpg


            
วิหารวรรณกรรม หรือภาษาเวียดนามเรียกว่า วันเหมียว (Van mieu) เป็นวัดโบราณและมหาวิทยาลัยแห่งแรก
ของเวียดนาม ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองฮานอย ทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ 1070 ซึ่งเป็นยุคของ ราชวงศ์ไล โดยพระเจ้าไล ไท ตอง สร้างขึ้นเพื่อเชิดชูคุณธรรมและแสดงความยกย่องแก่ขงจื๊อ นักปราชญ์ชาวจีนที่ได้รับความเคารพนับถือเป็นอย่างมากในประเทศจีน ซึ่งเวียดนามที่ตกอยู่ภายใต้อำนาจของราชวงศ์จีนในตอนนั้นก็ได้รับอิทธิพลความเชื่อนี้มาด้วย ในอีกหกปีต่อมา ช่วงปี ค.ศ 1076 ได้มีการสร้างให้เป็นโรงเรียนสำหรับขุนนาง เพื่อให้เหล่าขุนนางได้ศึกษาเล่าเรียนและสอบเป็นจอหงวน จนกระทั่งในปี ค.ศ1442 ยุคสมัยของราชวงศ์ตรัน ได้มีการเปิดรับนักเรียนทั่วไปที่มีความรู้ความสามารถให้เข้าเรียนในวิหารแห่งนี้ได้ และได้เปิดเรียนการสอนจนถึงปลายศตวรรษที่ 18 และถูกทิ้งให้รกร้าง

Cổ kính Văn Miếu Quốc Tử Giám - Trường đại học đầu tiên của Đông Nam Á
ที่มา : https://tour.dulichvietnam.com.vn/diem-den/ha-noi/co-kinh-van-mieu-quoc-tu-giam-truong-dai-hoc-dau-tien-cua-dong-nam-a.html

    
    วิหารวรรณกรรมแบ่งออกเป็น 5 ชั้นด้วยกัน ประตูทางเข้าด้านหน้าทำเป็น 2 ชั้น มีประตูรูปวงโค้ง คล้ายก๋งจีน สลักชื่อวิหารวรรณกรรมอยู่ชั้นบนสุด เมื่อลอดซุ้มประตูด้านหน้าเข้ามา จะพบความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ สองข้างทางมีบ่อน้ำสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก 2 บ่อ สังเกตได้ว่ามีการวางแผนผังการก่อสร้างที่ดี โดยคำนึงถึงหลักของฮวงจุ้ยเช่นเดียวกับจีน ซึ่งได้รับอิทธิพลนี้มาจากจีน เพราะจีนเคยปกครองเวียดนามมาก่อน
ที่มา : https://vi.wikipedia.org/wiki/V%C4%83n_Mi%E1%BA%BFu_-_Qu%E1%BB%91c_T%E1%BB%AD_Gi%C3%A1m

  
        เมื่อเดินผ่านซุ้มประตูมาก็จะถึงอาคารชื่อตึกดาวลูกไก่ หรือ เคววันกั๊ก (Khue Van Cac) สถานที่นักอักษรศาสตร์มาท่องบทกวี มีประตูกำแพงใหญ่ได๋แถงห์โมน (Dai Thanh Mon) สัญลักษณ์ของกรุงฮานอย กับสระน้ำขนาดใหญ่ตรงกลางลานด้านหลังประตูมีชื่อว่า สระแสงงาม หรือ เทียนกวางติงห์ (Thien Quang Tinh) เวลาแสงจากพระอาทิตย์สาดส่องจะสะท้อนเข้าสู่ประตูใหญ่ ซึ่งตามความเชื่อหลักของฮวงจุ้ย คือทำให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง


Khuê Văn Các sắp được tu bổ lại | VTV.VN
ที่มา : https://vtv.vn/du-lich/khue-van-cac-sap-duoc-tu-bo-lai--109269.htm

ที่มา : http://www.oceansmile.com/Vietnam/Wannakam.htm


        นอกจากนี้ภายในอาคารหรือบริเวณรอบยังมีแผ่นหินจารึกรวม 82 แผ่น หลงเหลือจากของเดิมที่มีอยู่ถึง 117 แผ่น ซึ่งแผ่นหินเหล่านี้จะตั้งอยู่บนหลังเต่าทำด้วยหิน จารึกชื่อ ผลงาน ประวัติทางวิชาการของผู้ที่สอบผ่านการศึกษาหลักสูตร 3 ปี ตั้งแต่ระหว่างปี พ.ศ.1985-2322 หลายคนจึงเรียกว่า “แผ่นหินจารึกชื่อจอหงวน” ซึ่งจารึกชื่อของบัณฑิตจำนวน 1,307 คน



    
     เมื่อเดินตรงมาเรื่อย ๆ ก็จะพบ
อาคารแห่งการเฉลิมฉลอง หรือ ไบ๋ เยือง ซึ่งเป็นที่ตั้งเครื่องเซ่นสังเวยให้แก่ขงจื้อ อีกทั้งยังเป็นบริเวณที่กษัตริย์ได้ทรงมอบน้ำพระพิพัฒน์สัตยาให้กับอาจารย์ผู้สอนในอดีต ซึ่งบริเวณนี้มีแผ่นไม้ที่สลักไว้ด้านบนแท่นบูชาว่า ‘อาจารย์ของนักเรียนกว่าพันรุ่น’
  

ที่มา : http://www.taraarryatravel.com/info_page.php?id=652&category=34

Detailed decorative altar  inside the Temple of Literature (Van Mieu) in Hanoi, Vietnam : Stock PhotoTemple of Confucius containing statues of the great philosopher and four of his main disciples all dressed in robes of red and gold.Temple of Literature, Hanoi, Vietnam. : Stock Photo
ที่มา : https://www.gettyimages.com/detail/photo/the-constellation-of-literature-gate-temple-of-royalty-free-image/900314488


  
       นอกจากนี้แล้วภายในวิหารวรรณกรรมแห่งนี้ยังมีการรวบรวมผลงานทางด้านศิลปกรรม งานปั้น งานแกะสลัก และรูปภาพตั้งแต่สมัยอดีตพันกว่าปีที่ผ่านมา  ซึ่งปัจจุบันวิหารวรรณกรรมแห่งนี้กลายเป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ โดยในช่วงแรกเป็นการสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับนักปราชญ์ขงจื๊อ จนต่อมาวิหารวรรณกรรมแห่งนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ในการเชิดชูเกียรติของเหล่าบัณฑิตที่มีบทบาทในการสร้างวัฒนธรรมความรู้ของเวียดนาม และมีการบูรณะซ่อมแซมให้คงความเป็นตัวอย่างวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของชาวเวียดนามได้เป็นอย่างดี

        หากทุกคนได้เดินทางไปเที่ยวฮานอย ประเทศเวียดนามแล้ว วิหารวรรณกรรมก็เป็นอีกแลนด์มาร์คหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว นอกจากจะได้เกร็ดสาระความรู้จากวิหารวรรณกรรมแล้ว บริเวณรอบ ๆ สถานที่แห่งนี้ยังเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อนและการถ่ายรูปกับทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ที่เขียวขจีและดอกไม้ที่สวยงามใจกลางเมืองฮานอย



เอกสารอ้างอิง

texlovewich.(2553).วิหารวรรณกรรม (วันเหมียว,Literature temple) แห่งฮานอย .สืบค้นเมื่อ 26/8/2563
จากเว็บไซต์http://xn--q3cs6acu.blogspot.com/2010/06/literature-temple.html

MGR Online.(2549).วันวานของ‘วันเหมียว’ มหาวิทยาลัยแห่งแรกของเวียดนาม.
สืบค้นเมื่อ 26/8/2563จากเว็บไซต์http://xn--q3cs6acu.blogspot.com/2010/06/literature-temple.html
https://mgronline.com/dhamma/detail/9490000112076

วิหารวรรณกรรม.(มปป.).
สืบค้นเมื่อ 27/8/2563จากเว็บไซต์ https://www.expedia.co.th/Temple-Of-Literature-Hanoi.d6115784.Place-To-Visit

โอเซี่ยนสไมล์ทัวร์.(มปป.).วิหารวรรณกรรมวันเหมียว (Van mieu) ฮานอย เวียดนาม.
สืบค้นเมื่อ 27/8/2563จากเว็บไซต์http://www.oceansmile.com/Vietnam/Wannakam.htm

ส.ทหรลำชี.(มปป.).วิหารวรรณกรรมวันเหมียว (Van mieu) ฮานอย เวียดนาม.
สืบค้นเมื่อ 27/8/2563จากเว็บไซต์http://oknation.nationtv.tv/blog/t-vee/2016/10/15/entry-2

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น